การปักครอสติชเบื้องต้น 2

การปักครอสติชเบื้องต้น 2

1. ผ้าปักครอสติชเป็นผ้ามีตาผ้าเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส  มีหลายขนาดตาผ้า ตั้งแต่ 52,56,44,35หรือ 25 ช่องเท่ากับ 10ซม. ( 18 ช่องต่อนิ้ว 14 ช่องต่อนิ้ว 11 ช่องต่อนิ้ว)

    
2.  เพื่อไม่ให้ชายผ้าหลุดลุ่ย คุณมีทาเลือก 3 ทาง
    1. เย็บขอบด้วยไหมหรือด้ายเย็บผ้า
    2. เย็บซิกแซกด้วยจักร
    3. ใช้นำยา (FRAY CHECK)
     *** เราไม่แนะนำให้ใช้เทป***

3. วิธีการวางรูปปัก
    ให้อยู่กึ่งกลางของผ้า เข็มแรกที่คุณจะเริ่มปักสำคัญมาก เพราะเป็นการวางตำแหน่งภาพปักที่สำเร็จ
    บนผ้า คุณจะหาจุดกึ่งกลางของผ้าได้โดยการพับผ้าทบครึ่งแล้วทบครึ่งอีกทีหนึ่ง
    (อย่าพับจนผ้าเป็นกลีบเพราะรอยพับบนผ้าฝ้ายบางครั้งจะทำให้เรียบได้ยาก) บีบรอยตรงกลางและ
    ร้อยเส้นไหมเป็นเครื่อง หรือปักด้วยเข็มหมุด(เวลาร้อยเส้นไหมเป็นเครื่องหมายใช้เส้นไหมสีเดียวกับ
    ผ้า ถ้าใช้ไหมสีเข้มบนพื้นผ้าสีอ่อนเมื่อดึงเส้นไหมออกสีของไหมจะติดบนผ้า) เมื่อผ้าคลี่ออกรอย
    ที่บีบไว้จะเป็นจุดศูนย์กลางของผ้า หาจุดกึ่งกลางลายโดยลากตามรูปศรตัดกัน
    ที่ตรงกลางแต่ละตารางบนลายปักแทนแต่ละตารางบนผืนผ้าจากจุดศูนย์กลางนับ ขึ้นไปจนถึง
    แถวบนสุดของลายแล้วนับไปทางซ้ายหรือขวาแล้วเริ่ม
 
4. ขึงผ้าบนสดึง
แล้วค่อยๆ ดึงจนตึงและขันน็อต น็อตตัวแรกควรอยู่ตรงที่ตำแหน่งเข็ม นาฬิกาเลข 10หรือถ้าคุณถนัดซ้ายควรขันน็อต ตรงตำแหน่งเข็ม นาฬิกาเลข 2 การทำเช่นนี้จะทำให้เส้นไหมของคุณไม่พันกับน็อตเวลาปัก(ดูตามตัวอย่างในภาพ) ใช้สะดึงพลาสติกและล้างบ่อยๆ ในน้ำสบู่อุ่นๆ เพื่อกำจัดน้ำมันธรรมชาติที่สะสมจากการจับของมือคุณ อย่าขึงสะดึง ถ้าคุณยังไม่เริ่มทำงาน ใช้สะดึงขนาด 4 นิ้ว หรือ 5 นิ้ว เมื่อซักแล้วเส้นไหมจะคืนสู่ธรรมชาติ
(ล้างมือบ่อยๆ อย่าใช้โลชั่นทามือ)

5.ไหมปัก 
เมื่อจะแยกเส้นไหม จับไหมทั้ง 6 เส้นให้แน่นด้วยนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ด้วยมือซ้าย(ถ้าคุณถนัดขวา)แยกไหมออกมาทีละเส้นจนครบตามความต้องการที่จะปักแล้วจับรวมกัน

6.อย่าขมวดปมที่ไหม 
   วิธีที่จะปักเริ่ม 2 วิธี
    1. เหลือปลายไหมไว้ด้านหลัง 1 นิ้ว ปักทับด้วย 2-3 เข็มแรก
    2. ให้ปลายเป็นห่วง ใช้เมื่อคุณใช้จำนวนไหมเป็นคู่ (2-4-6 เส้น) ถ้าต้องการใช้ไหม 2 เส้นให้ใช้เส้นไหมเส้นเดี่ยวยาวประมาณ 24 " - 30 " แล้วพับครึ่งสนเข็ม ดึงไหมให้ด้านที่เป็นห่วงยาวกว่าด้านที่เป็น ปลาย 2 เส้น แทงเข็มขึ้นจนปลายไหม ด้านที่เป็นห่วงเหลือเล็กน้อยใต้ผ้าปักทางเดียวให้สอดเข็มไปในห่วงปลายไหม ซึ่งจะล็อกเส้นไหมไว้ไม่ให้มีปลายโผล่ด้านหลังของงานปักการขมวดปมจะทำให้ผิวด้านหลังภาพเป็นปุ่มและงานของคุณ จะไม่เรียบเมื่อเสร็จ

7.วิธี STAB STICK บนผ้า
   เพื่อไม่ให้ผ้าถูกดึงผิดรูปให้ใช้วิธี STAB STICK ซึ่งทำเป็น 2 จังหวะคือ ปักขึ้นตรงๆ โดยดึงไหมให้แน่นเกินไปวิธีนี้เส้นไหม จะอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการและจะไม่แน่นเกินไป ในระหว่างปักช่องผ้าช่องเดียวกันอาจจะถูกปักซ้ำ มากกว่า 1 ครั้ง

8.ถ้าไหมปักบิดเป็นเกลียว 
   ให้ปล่อยมือจากเข็มปักแล้วปล่อยให้เข็มห้อยลงมา จะทำให้ไหมคลายตัวออกเอง เส้นไหมที่บิดจะทำให้ดูเส้นบางลงและปิดช่องได้ไม่ดีเท่าไหมที่ไม่บิด หลังจากที่ปักแล้ว 2 หรือ 3 เข็ม คุณจะบิดเข็มหลัง จากการปักทุกครั้งก็ได้ถ้าคุณต้องการ

9.เมื่อปักจบ
   แต่ละสีให้สอดเข็มใต้รอยปักด้านหลัง 3-5 ช่องแล้วตัด

10.ไหมที่เหลือด้านหลังภาพปัก 
   เวลาปักอย่าโดดจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งที่ไกลกัน ไม่ควรเกิน 2 ช่อง และบนผ้าลินินไม่ควรเกิน 4 ช่องเมื่อเสร็จใป้สอดปลายใหมตามข้อ9

11. เข็มปัก
   คุณต้องใช้เข็มปักเบอร์ 23 สำหรับผ้าธรรมดาแต่ถ้าคุณใช้ผ้าตาใหญ่กว่า คุณควรใช้เข็ม เบอร์ 18 ไม่ควรปักเข็มคาไว้กับงาน เพราะไม่ว่าเข็มคุณภาพดีแค่ไหน ก็มีโอกาสเป็นสนิมได้ถ้าทิ้งไว้นานๆ 

12.ไหมที่เหลือด้านหลังภาพปัก 
   เวลาปักอย่าโดดจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งที่ไกลกัน ไม่ควรเกิน 2 ช่อง และบนผ้าลินินไม่ควรเกิน 4 ช่องเมื่อเสร็จแล้วเริ่มใหมเศษด้ายที่ เหลือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไหมสีเข้มจะมองทะลุทางด้านหน้าได้ 

13. วิธีซัก 
   งานที่ปักเสร็จแล้วควรนำไปซักเราแนะนำให้คุณใช้สบู่ชนิดอ่อนๆ ล้างให้สะอาดภายใต้น้ำเย็นที่ปล่อยไหลม้วนงานที่เปียกในผ้าขนหนูอย่าบิดอย่าทิ้งงานปักค้างคืนในผ้าขนหนูผ้าฝ้ายจะคืนสู่สภาพเดิมและรอย ยับย่นจะแก้ให้หายยากภายหลังจากผ้าแห้งรีดด้วยเตารีดร้อนๆ (อาจใช้ผ้าขาวปิดทับงานขณะรีด) โดยให้ด้านหน้าของงานคว่ำลงอยู่กับผ้าขนหนู เส้นใยที่เป็นวงๆ ของผ้าขนหนู จะช่วยให้เส้นปักของ คุณลอยขึ้นมาหลังจากรีดแล้วตรวจดูให้แน่ใจว่าผ้าแห้งทั้งชิ้น

ปัก FULL CROSS STITCH

  อย่าลืมปักครอสติชไปในทางเดียวกัน เข็มล่างให้ปักไปด้านหนึ่งและเข็มบนปักทะแยงตรงข้ามเราเริ่มปักจากมุมซ้ายมือด้านล่าง ขึ้นไปมุมขวาด้านบน แล้วปักทะแยง  1/4 STITCH นี่คือสัญลักษณ์การปัก 1/4 ของช่องบนผ้า 1/4 STITCH จะเป็นแบบนี้เมื่ออยู่บนผ้า


เคล็ดลับที่ช่วยคุณได้
     1. ปักจากมุมหนึ่งไปอีกมุมหนึ่ง โดยใช้ สีตามสัญลักษณ์
     2. ปักด้นถอยหลัง (เดินเส้น) ปักทีหลัง ใช้สีที่กำหนดให้ในคำสั่ง
     หมายเหตุ ถ้าไม่ระบุสีของด้นถอยหลังให้ปักด้นถอยหลังโดยใช้สีที่ใช้มากในลายแบบนั้น
     3/4 STITCH นี่คือสัญลักษณ์การปัก 3/4 ของช่อง 3/4 STITCH จะเป็นแบบนี้บนผ้า

เคล็ดลับที่ช่วยคุณได้
     1. เมื่อดูจากผังลาย เส้นด้นถอยหลัง ข้าม 2 ช่องไม่ว่าด้านตั้งหรือด้านนอน และสัญลักษญ์ของสีเหมือนกันทั้ง 2 ข้างของด้นถอยหลัง (Backstitch) แสดงว่าสัญลักษณ์ นั้น คือ    สัญลักษณ์ ของครอสติชให้ปักไขว้เต็มช่องแล้วปักด้นถอยหลัง ด้วยไหมสีสุดท้ายที่ให้ไว้ในคำสั่ง
     2. ถ้าสัญลักษณ์ของด้นถอยหลัง ทั้ง 2 ข้างต่างกันแสดงว่าควรปัก 3/4 ของช่องในสีที่แสดงสัญลักษณ์ ทั้ง 2 ข้าง ของด้นถอยหลัง(แสดงในภาพ 2 และ3) ปักด้นถอยหลังด้วยไหมสีสุดท้ายในคำสั่ง

การปักด้นถอยหลัง หรือในลายว่าการปักเดินเส้น ให้ดูสีที่กำหนดในผังลาย แล้วปักช่องต่อช่องไปตามลาย บางตำแหน่งอาจต้องปักทแยง

การปักปมฝรั่งเศส ใช้ไหม 1 เส้น
     1. ปักขึ้นผ่านผ้าที่จุด 1
     2. จับไหมด้วยมือซ้าย วางเข็ม ปักลงบนไหมแล้วพันไหม 1 รอบ ตามเข็มนาฬิกา
     3. ยังคงจับไหมให้แน่นด้วยมือซ้าย และแทง เข็มใกล้จุด 1 (ไม่ใช้ช่องเดียวกัน) ใช้มือซ้ายจับไหม
        เพื่อช่วยนำทางในการปัก ดึงไหมผ่านด้านหลังของผ้า

การปักผ้าลินิน
คุณจะชอบทำงานกับผ้าลินิน ถ้าคุณทำครอสติชชำนาญขึ้นเรื่อยๆ คุณอาจจะหัดจากผ้าฝ้ายทอแบบเรียบๆ
ที่1 ช่องตารางของผ้าเท่ากับการปัก 1 เข็ม งานปักแรกในชีวิตของคุณอาจเป็นดอกไม้ดอกเล็กๆ หรือภาพหัวใจที่น่ารักหลังจากนั้นผู้ปักส่วนมากจะทดลองปักเพื่อให้ใครคนหนึ่งเป็นพิเศษ ต่อมาเราก็จะทำงานทั้งที่มีประโยชน์และสวยงามเช่น หมอน,ตกแต่งเสื้อ,ภาพปักของขวัญวันเกิด หรืองานแต่งงาน ฯลฯ

ขั้นสุดท้ายก็คือลินินนี่คือวัสดุที่ใช้ปักงานศิลปชั้นพิเศษลินินมีความคงทนถาวรมากกว่าผ้าฝ้าย มีโอกาสในการออกแบบลายที่หลากหลายกว่า ซักรีดได้ง่าย หลังจากซักแล้วจะสวยขึ้นเรื่อยๆ และโดยสรุปเป็นผ้าที่ให้ความงามสง่าและคงเอกลักษณ์

 เคล็ดลับของการปักผ้าลินิน 
กันชายลุ่ย ใช้ด้ายเดี่ยวเส้นสีอ่อน เพื่อการเย็บขอบของผ้าเพื่อกันชายลุ่ย

ปักแบบไม่ใช้สดึง
การปักครอสติชบนลินินไม่ต้องใช้สดึง เมื่อปักมือซ้าย ควรจับผ้าไว้หลวมๆ ด้วยหัวแม่มือและนิ้วชี้
ส่วนนิ้วก้อยใช้ยึดผ้าให้อยู่กับที่ (รูปที่1) ถ้าผ้าที่ปักชิ้นเล็กเกินไป อาจจะต้องใช้นิ้วนางยึดผ้าแทน
นิ้วก้อย อย่าปักในขณะที่ผ้าพ้นนิ้วอาจจะทำให้รอยปักยืด

ปักแบบปล่อยปลายไหมไม่ทำปม
หมายความว่าปล่อยปลายไหมไว้ด้ายบนของผ้า เมื่อปักหมดไหมสอดเข็มภายใต้รอยปักด้านหลัง ในทาวเดียวกับรอยปักหรือด้านหลังตั้งหลังจากนั้นร้อยเข็มกับปลายที่เหลือแล้ว สอดเข้ากับรอยปักด้านหลังเช่นเดียวกัน 

การปักเข็มแรก
การปักเข็มแรกและเข็มต่อๆ ไปควรเริ่มด้วยการปักในเส้นทอแนวตั้งทำไม? เพราะไหมที่ปักทับเส้นทอแนวตั้ง (บริเวณที่เป็นเงาในภาพที่ 3 ) จะเป็นเหมือนเสาตะปูฟุตบอลเพื่อยึดรอยขัดระหว่างเส้นทอแนวตั้งและแนวนอน เริ่มจากช่องซ้ายมือด้านล่าง การเริ่มโดยการปักเส้นทอแนวตั้ง จะเป็นการเตือนก่อนปักผิดได้ด้วย การปักธรรมดาเกิดเริ่มเป็นการปักเส้นทอแนวนอนแสดงว่าได้มีการนับผิดเกิดขึ้น

จังหวะในการปัก
การแทงเข็มขึ้นลงที่ใช้กับการปักผ้าลินิน  การปักไม่ควรจะหลวมเกินไปหรือแน่นเกินไปจนช่องระหว่าง เส้นใยของผ้าลินินถ่างออกเป็นรูกว้าง ถ้าเห็นแสงสะท้อนของด้านบน ของรอยปักแสดงว่าปักแน่นเกินไป ความแน่นที่ถูกต้อง จะได้รอยปักที่แบนราบแต่ไม่ทำให้ผ้าย่นการปักทะแยงด้านเดียวก่อนเป็นฐานแล้วปักทะแยงกลับด้านล่าง ของผ้าจะเป็นเส้นปักตั้ง

180 องศา
เพื่อความสะดวกในการปัก การกลับงานปักของคุณด้านบน เป็นด้านล่าง อาจจะช่วยให้คุณปักสะดวกขึ้นได้อย่าลืมกลับหัวลายปักด้วย แต่อย่ากลับงานแค่ครึ่งเดียว เพราะจะทำให้ทิศทางของการปักด้านบนเสียจะทำให้ผิวของงานที่เสร็จสะดุด ดูไม่เรียบ

การซักรีด 
ซักงานปักของคุณเมื่อเปื้อนเท่านั้น ถ้างานปักยังสะอาดอยู่ ให้วางคว่ำหน้าลงบนโต๊ะรีดและทำให้ ชื้นด้วยที่ฉีดสเปรย์ หรือรีดขณะที่ผ้า กำลังชื้นให้แห้ง ทำให้ผ้าลินินหดเล็กน้อยทำให้รอยปักฟูขึ้นอย่างสวยงาม
ถ้าจำเป็นต้องใช้สบู่ซักด้วยน้ำเย็นล้างให้สะอาด พยายามจับผ้าอย่างเบามือ ม้วนผืนงานในผ้าเช็ดตัวและค่อยๆ บีบน้ำส่วนเกินออกแล้วคว่ำหน้าลงรีดให้แห้ง

ใส่กรอบรูป
นำผ้าปักที่ซักรีดเรียบร้อยแล้วไปใส่กรอบรูปที่ร้าน หรือซื้อกรอบสำเร็จมาใส่ งานปักครอสติชใช้ประโยชน์ได้หลายอย่างนอกจากตกแต่งผนัง สามารถนำไปตกแต่งกระเป๋า ทำหมอนอิง หมอนเข็ม การ์ด ผ้าปูโต๊ะ หรือตกแต่งบางส่วนของเสื้อได้